แนะนำเทคนิคและแชร์ประสบการณ์เรียนต่อ Top U ที่ UK

ใครที่กำลังวางแผนเรียนต่ออังกฤษ หรือเรียนต่อต่างประเทศอยู่ พี่ๆ PIPP Education มีบทสัมภาษณ์นักเรียนของเราที่เรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ Top U ใน UK สี่แห่ง ได้แก่ London School of Economics and Political Science หรือ LSE, Imperial College London, King’s College London และ University of Bristol มาฝากทุกคนค่ะ

  1. เอิน ป.ตรี วิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ป.โท LSE (London School of Economics and Political Science) สาขา Management of Information Systems and Digital Innovation

“สาเหตุที่เลือกประเทศอังกฤษคือ ที่นี่มีชื่อเสียงด้านการศึกษาในระดับอุดมศึกษา”

“สิ่งที่ได้รับจากการมาเรียนต่อป.โทที่นี่คือ เราได้มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ พึ่งพาตนเอง รู้จักตัวเองมากขึ้น ได้ networking กับคนหลายเชื้อชาติ หรือมีโอกาสได้รู้จักกับคนอื่นๆที่อาจเป็น long life friends

“ถ้ามีโอกาสได้ไปจุดนี้แล้ว สิ่งไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด”

“ที่มหาวิทยาลัยมักจัดงานที่มี Firm หรือรุ่นพี่ แนะนำจริงๆว่าควรไป เพราะนั่นเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะทำให้คนนั้นๆ หรือบริษัทนั้นๆรู้จักเราได้ดีมากกว่าการยื่นใบสมัครงานออนไลน์ โดยที่ไม่ได้รู้จักเราเป็นการส่วนตัว”

“สิ่งที่อยากฝากบอกถึงน้องๆคือ หางานให้เร็วเท่าที่จะเร็วได้ ซึ่งก็คือตอนนี้เลย”

“โดยส่วนตัว หลังจากที่ทุกอย่าง settle down แล้ว เริ่มหางานตั้งแต่ 1 เดือนแรก เพราะการแข่งขันปัจจุบันสูงมาก โอกาสอะไรมา เก็บเกี่ยวไว้ก่อน”

“พี่ๆ เข้ามาช่วยเหลือตั้งแต่ในขั้นตอนแรกเลยทั้งเลือกมหาวิทยาลัย หอพัก จนไปถึงเที่ยวที่ไหนดี”

“เข้ามาถึงพี่ๆ ก็พาทำ SOP -Statement of Purpose กับติว IELTS ครับ”

 

  1. พิม ป.ตรี นิเทศศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นักเรียน MSc Management ที่ Imperial College London

“เดิมพิมจบนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณาค่ะ เคยทำกิจกรรมทั้งในมหาวิทยาลัยและนอกมหาวิทยาลัยเลยเลือกเรียน MSc Management เพื่อเติมเต็มในส่วนของสายงานธุรกิจค่ะ”

“ตอนนี้มีเรียนทั้ง accounting, marketing decisions, Economics”

“ที่นี่สอนว่า ทุกๆ 1 ชั่วโมงที่เรียน ให้เผื่อเวลาอ่านหนังสือไปอีก 3 ชั่วโมง” (เตรียมตัวก่อนเรียน+เตรียมตัวหลังเรียน)

“Imperial ให้ความสำคัญกับการ “ทำงานต่อ” ตั้งแต่เข้ามาช่วงแรกจะมี resources สายงานที่เราสนใจเตรียมไว้ให้ เช่น workshop วีดิโอ Alumni Talk”

“ตอนนี้กิจกรรมที่ทำกับคือ ทำตำแหน่ง student ambassador ที่ทำหน้าที่ให้ข้อมูลน้อง ๆ ที่จะเข้ามาเรียน มีการถามรุ่นพี่ ซึ่งคำตอบเขา inspired เรา จนเรารู้สึกว่าอยากเป็นแบบนั้น อยากถ่ายถอดแบบนั้น  มีกิจกรรม มี workshop ให้ทำตลอด ซึ่งมีประโยชน์ ได้ทั้ง skills ที่เราได้รับมา และ skills ของเราที่ถูกนำไปใช้”

“ใน 1 class มีนักเรียน 183 คน จาก 103 ประเทศ ความหลากหลายทางเชื้อชาติมีเยอะมาก มีการแลกเปลี่ยน กรอบความคิดที่เปิดกว้าง”

“ก็อยากแนะนำว่าให้สมัครตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างพิมเริ่มตั้งแต่ช่วงสิงหา ส่งใบสมัครต้นธันวา ผลออกช่วงปลายมกรา-ต้นกุมภา”

“มี Online Primer ให้เรียนปรับพื้นฐาน ซึ่งก็ใช้เวลาประมาณเดือนนิดๆถึง 2 เดือน เช่น Finance, Accounting”

  1. อีฟ ป.ตรี นิเทศศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ เกียรตินิยมอันดับ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

นักเรียน MSc International Management ที่ King’s College London

“เดิมเรียนนิเทศศาสตร์ค่ะ แล้วก็อยากเปลี่ยนมาสาย management”

“การเรียนที่นี่คือ จะมี resources ที่เราต้องเตรียมก่อนจะมา discuss กันในห้องเรียน แบบว่าทุกคนต้องเตรียมตัวพร้อมมาเรียน”

“เหตุผลที่มาต่อโทที่อังกฤษคือ เพราะโปรแกรมที่นี่เป็นแบบ 1 ปี และมีวีซ่า graduated route สำหรับคนที่เรียนจบแล้วอยากทำงานต่อที่อังกฤษ”

“เดิมเรียนนิเทศมา ซึ่งก็จะถนัด marketing อยู่แล้ว แต่คนที่ไปไวเค้าจะมีพื้น business background มา”

“สาขา International Management เวลาเรียน Accounting กับ Financial จะเรียนเป็น For Manager ไม่ใช่ For Financial

 

  1. มน ป.ตรี วิศวกรรมศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับ 1 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง

นักเรียน MSc Financial Technology with Data Science ที่ University of Bristol ทุน Think Big Scholarship £10,000

“Bristol เป็นเมืองที่น่าอยู่มากจริงๆ ติดอันดับโลก”

“จบวิศวะ ลาดกระบังมาครับ”

กิจกรรมที่ประทับใจ ช่วงแรกมี Welcome week มี student tour, student guide พาไป explore เมือง มี Event ให้ทุกคลับในมหาลัยมาคุยกัน ทำให้รู้จักมหาลัยและเพื่อนมากขึ้น มีแจกคูปองกินฟรีหลายร้าน ซึ่งทุกวันนี้ผมก็ยังใช้คูปองพวกนี้อยู่”

“หลังจากที่เรียนมาได้เดือนนึง ก็สนุกครับ วิชาที่เรียนของที่นี่ไม่ได้มีเยอะมาก จะใช้เวลาเยอะก็จะเป็นพวกที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น video lecture+ อ่านหนังสือก่อนเข้าห้องเรียน สมมติว่าเราจะเรียน exchange & trading เราก็ไป trade กันในห้องจริงๆเลย”

“สำหรับใครที่กังวลว่าเราไม่ได้จบ engineer มาจะเรียนได้หรือเปล่า ที่นี่เค้าจัดให้เราเรียนตาม skill อย่างผมมีพื้นฐาน programming มาแล้ว ก็ถูกจัดให้ไปเรียน Stat ส่วนเพื่อนที่ไม่ได้มีพื้นฐาน programming ก็จะถูกจัดให้ไปเรียนอันนี้ก่อน เพราะ programming สำคัญมากจริงๆกับสาขานี้”

“ภาษาที่ใช้คือ R กับ Python ที่นี่เขามีปูพื้นให้ แต่ถ้ามีพื้นมาแล้วก็ดีครับ”

การเรียนี่ Bristol แบ่งเป็น 3 เทอม

  1. Teaching block 1 ทำ assignment ส่ง ไม่เก็บคะแนนจากการสอบ แต่เก็บจาก coursework & assignment จะได้เหมือนชีวิตจริงๆ ส่วนใหญ่เป็นงานเดี่ยว
  2. Teaching block 2
  3. Research”

Fintech มี 2 แบบ คือ

  1. Under business
  2. Under ComSci ผมเลือกอันนี้ เพราะสนใจคริปโต+ automated trading ที่ Bristol ดังเรื่อง engineering ครับ”

“ตอนนี้ผมมีเรียน

  1. Stat เพื่อเอามาวิเคราะห์data ให้เห็นภาพมากขึ้นจะเอาไป visualize ยังไง
  2. Large-scale data เพื่อ manage data ใหญ่ๆยังไง เพราะข้อมูลบนโลกนี้เยอะมาก
  3. Introduction to financial technology คือการเรียนที่เอาดาต้ามาพัฒนา finance ยังไง เค้าเทรดกันยังไง automate กันยังไง algorithm ในการ automate ทำยังไง คอมมันเทรดให้เรายังไง
  4. Extra curriculum ปีนี้สอนเป็น Java script เอามาให้นักเรียนเขียนเว็บเป็น เพราะถ้าเราดาต้าเป็นแล้ว ก็เอาไปแสดงผลในเว็บได้”

“ประสบการณ์ทำงานมาก่อนทำให้ผมมี skill ที่ช่วยให้เรียนป.โทสนุกขึ้น”

ใครที่สนใจเรียนต่อต่างประเทศ ปรึกษา พี่ๆ PIPP Education ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายในทุกขั้นตอนการดำเนินการ

รับข้อมูลแบบเจาะลึกเรียนต่อ Top U ที่ UK