รู้หรือไม่ใครก็ไป Internship ได้ง่ายๆ แค่มีเอกสาร 4 อย่าง

 

โอกาสที่น่าตื่นเต้นในการเข้าร่วม Internship Program การได้รับประสบการณ์การทำงานจริงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเติบโตและการพัฒนาในสายอาชีพ ไม่ว่า จะเป็นนักเรียน นักศึกษาเพิ่งจบการศึกษา หรือใครก็ตามที่ต้องการออกไปเปิดโลกกว้าง การไปฝึกงานต่างประเทศตอบโจทย์มาก อย่างไรก็ตาม กระบวนการสมัครฝึกงานอาจเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่จริงแล้วเราสามารถเตรียมเอกสารสำคัญเพียง 4 ฉบับ

 

1.Resume/CV

เรซูเม่หรือประวัติย่อ (CV) ของเราจะใบที่แสดงโปรไฟล์มืออาชีพของเรา โดยเน้นการศึกษา ทักษะ ประสบการณ์ และความสำเร็จของต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ได้เห็นภูมิหลังและความสามารถของคุณ เรซูเม่/CV ที่ออกแบบมาอย่างดีให้เหมาะกับการฝึกงานที่เราเลือกสมัคร สามารถเพิ่มโอกาสในการได้รับเลือกได้อย่างมาก

 

 

  1. Cover letter

โครงการ internship abroad ทำให้เราได้ลองฝึกประสบการณ์การทำงานที่ต่างประเทศ  ดังนั้น Cover letter จะถือเป็นโอกาสให้เราได้ดึงดูดความน่าสนใจของเราเพิ่มขึ้น เพราะในนี้เราสามารถเขียนเรื่องราวของเราเพิ่มมากขึ้น ทั้งเหตุผลในการสมัคร ทักษะด้านต่างๆ หรือ ทำไมบริษัทควรเลือกเรา เพราะฉะนั้น ถ้าเราเตรียม cover letter ไว้ล่วงหน้าก็เหมือนเราก็จะพร้อมที่จะเริ่มงานเลยค่ะ

 

  1. ใบแสดงผลการเรียน

ใบรับรองผลการเรียนเป็นบันทึกอย่างเป็นทางการของผลการเรียน โดยทั่วไปจะมีรายชื่อหลักสูตรที่เรียน เกรดที่ได้รับ และเกียรติประวัติหรือรางวัลใดๆ ที่ได้รับระหว่างการเดินทางเพื่อการศึกษา เพื่อประเมินวุฒิการศึกษาของเราและพิจารณาคุณสมบัติ สำหรับโอกาส ซึ่งการที่เรามีประวัติการเรียนที่ดีก็จะส่งผลต่อประวัติของเราทางด้านการศึกษา

 

4. สำเนาใบจบการศึกษา

น้องๆคนไหนที่สนใจในโครงการ Internship abroad จริงๆแล้วรู้หรือไม่ว่าโดยส่วนใหญ่โครงการนี้จะรับนักศึกษาที่จบปริญญาตรีแล้วหรือจบมาแล้วไม่เกิน 1 ปี เพราะในการฝึกงานที่ต่างประเทศ อาจต้องใช้ ความสามารถในการรับมือเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ดังนั้นเราควรยื่นเรื่องขอเอกสารกับทางมหาวิทยาลัยของเราเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาด้วยนะคะ

 

การไป Internship Program อาจจะดูยุ่งยากและหลายขั้นตอน ดังนั้น เตรียมเอกสารเหล่านี้อย่างเพรีบพร้อมก็ทำให้เราสะดวกขึ้นเยอะค่ะ

 

 

Tips

  • รู้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ฝึกงานให้อะไรมากกว่าที่เราคิด

การค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทให้มากที่สุดเกี่ยวกับบริษัทที่เราจะฝึกงานด้วย ทำความเข้าใจเกี่ยวกับพันธกิจ คุณค่า ผลิตภัณฑ์หรือบริการของสถานที่ฝึกงาน และข่าวสารใหม่ๆหรือโครงการล่าสุดที่มีส่วนร่วม ความรู้นี้จะช่วยให้เราสามารถปรับตัวเองให้เข้ากับเป้าหมายของที่ฝึกงานและแสดงความสนใจว่าเราต้องการทำงานกับบริษัทในระหว่างการฝึกงาน ซึ่งเมื่อมีการสัมภาษณ์คำถามเกี่ยวกับข้อมูลบริษัท หรือข้อมูลสินค้าหรือบริการที่ทางบริษัทมีเราก็จะสามารถตอบได้แบบสบายๆ

 

 

 

 

 

 

5 Skill ควรมีถ้าจะฝึกงานสาย Business

 

  • ทักษะการสื่อสาร

ทักษะการสื่อสารที่แข็งแกร่งทั้งการพูดและการเขียนเป็นสิ่งจำเป็นในสาขาธุรกิจ ซึ่งจะสามารถแสดงความคิดของเราได้อย่างชัดเจน รับฟังอย่างกระตือรือร้น และสื่อสารกับเพื่อนร่วมงาน หรือ ลูกค้า ถ้าเราสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพการทำงานก็จะตรงตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้

 

  • ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น

การสร้างและรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญในโลกธุรกิจ การพัฒนาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลของเรา เช่น การทำงานเป็นทีม การทำงานร่วมกัน การเอาใจใส่ และการแก้ไขข้อขัดแย้ง เนื่องจากจะต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการทำงานข้ามสายงาน ก็จะทำให้เราทำงานได้อย่างราบรื่นด้วย

 

  • ทักษะทางภาษา

ถ้าเรามีความสามารถในภาษาของประเทศนั้นนจะเป็นประโยชน์อย่างมาก การเรียนรู้ภาษาหรือพัฒนาทักษะภาษาของเราให้แข็งแรงและดีขึ้น เพื่อปรับปรุงการสื่อสารและการผสมผสานทางวัฒนธรรมระหว่างการฝึกงานจะทำให้การทำงานที่ต่างประเทศง่ายขึ้นกว่าเดิมเยอะ ดังนั้นเราต้องกล้าที่จะพูดคุยกับผู้คนในสถานที่นั้นๆเพื่อเป็นการฝึกฝนไปใรตัวด้วย

  • ทักษะการวิเคราะห์และการแก้ปัญหา

ทักษะการวิเคราะห์มีประโยชน์ในด้านธุรกิจ ทำให้เราสามารถรวบรวมและตีความข้อมูล ตัดสินใจอย่างรอบรู้ และแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ หรือความรอบคอบและความใส่ใจในรายละเอียดในการทำธุรกิจ นอกจากนี้การใช้เหตุผลก็เป็นอีกเรื่องสำคัญในการฝึกงานทางด้านนี้

 

  • ทักษะความรู้เกี่ยวกับข้อมูลด้านธุรกิจ

ถ้าเราทำงานสาย Business แน่นอนว่าพื้นฐานทางธุรกิจ เช่น การตลาด การเงิน การดำเนินงาน และกลยุทธ์ เราต้องเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้เพื่อที่จะสามารถต่อยอดหรือเข้าใจสถานการณ์ในการทำงานนั้นๆได้

 

5 Skill ควรมีถ้าจะฝึกงานสาย Engineer

 

  • ความรู้ด้านเทคนิค

การทำงานสายนี้ความรู้ทางด้านเทคนิคของสาขาวิชาวิศวกรรม และการรทำความเข้าใจทฤษฎี หลักการ และแนวคิดที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนความเชี่ยวชาญในเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ และเทคโนโลยีที่ใช้กันทั่วไปในสายงานก็จะทำให้เราสามารถเข้าใจการใช้เทคนิคต่างๆในงานต่างๆได้ด้วย

 

  • ความตระหนักด้านความปลอดภัย

การทำงานเป็นวิศวกรรมซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นงานเกี่ยวกับกับวัสดุ เครื่องจักร หรือสภาพแวดล้อมที่อาจเป็นอันตราย ดังนั้นการคำนึงเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน ทำความเข้าใจกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัยจะทำมห้เราสามรถทำงานได้อย่างไร้กังวลด้วย

 

  • ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

วิศวกรรมเป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้นหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งถ้าเราความคิดสร้างสรรค์หรือการคิดนอกกรอบ ก็อาจจะได้ไอเดรยเจ๋งๆ  การไปฝึกงานต่างประเทศก็เป็นการสำรวจแนวคิดที่แปลกใหม่ และท้าทายแนวทางดั้งเดิม ซึ่งอาจทำให้เราพัฒนาความคิดเชิงนวัตกรรมของเราให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วย

 

  • ทักษะการสื่อสาร

การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับวิศวกร สามารถอธิบายแนวคิด แนวคิด และวิธีแก้ปัญหาของได้อย่างชัดเจนและรัดกุม และสื่อสารออกไปได้อย่างชัดเจนก็จะทำให้เราผลิตผลงานออกมาได้อย่างมีคุณภาพ

 

  • การทำงานเป็นทีมและการทำงานร่วมกัน

โครงการวิศวกรรมมักต้องการความร่วมมือกับทีมสหสาขาวิชาชีพ ถ้าเราทำงานเป็นทีมและการทำงาน

ร่วมกันกับคนอื่นได่้ รวมถึงการับฟัง เคารพในมุมมองที่หลากหลาย และมีส่วนร่วมในการออกความคิด

เห็น ก็จะทำให้เราทำงานได้

 

 

5 Skill ควรมีถ้าจะฝึกงานสาย Hospitality

 

  • ทักษะการบริการลูกค้า

การบริการลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของการบริการ เราควรที่จะพัฒนาทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและการสื่อสารงเพื่อโต้ตอบกับแขก  สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าและจัดการกับข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียน มีความเอาใจใส่ เห็นอกเห็นใจ และตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า

 

  • ความสามารถในการปรับตัวเกี่ยวกับวัฒนธรรม

การทำงานสายบริการ มักเกี่ยวข้องกับการทำงานกับผู้คนที่หลากหลาย ซึ่งก็ต้องมีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ดังนั้นเราต้องปรับตัวและเปิดใจกว้าง แสดงความเคารพต่อขนบธรรมเนียม ประเพณี และภาษาต่างๆ เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกเป็นมิตรและเป็นกันเอง

 

  • ทักษะการจัดการองค์กรและเวลา

การทำงานด้าน บริการมีความรวดเร็ว เพราะอาจจะมีสามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกัน จัดลำดับ

ความสำคัญของความรับผิดชอบ และจัดการเวลาของคุณได้อย่างมี ประสิทธิภาพ พัฒนากลยุทธ์ในการ

จัดการกับช่วงพีค จัดการการจอง และประสานงานต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น

 

  • การใส่ใจในรายละเอียด

การใส่ใจในรายละเอียดเป็นสิ่งสำคัญในด้านการต้อนรับ ซึ่งแม้แต่การกำกับดูแลเพียงเล็กน้อยก็สามารถส่ง

ผลกระทบต่อประสบการณ์ของแขกได้ พัฒนาความกระตือรือร้นในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการจัดห้อง

การรักษาความสะอาด หรือการส่งมอบคำสั่งซื้อที่ถูกต้อง มุ่งสู่ความเป็นเลิศในทุกด้านของงานของคุณ

 

  • ทักษะการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริการต้องพบกับความท้าทายและสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดต่างๆ เพิ่มความสามารถ

ในการแก้ปัญหาและการตัดสินใจของคุณเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ พัฒนาทักษะ

การคิดเชิงวิพากษ์ ความสามารถในการประเมินสถานการณ์ และตัดสินใจอย่างรอบรู้โดยคำนึงถึงความ

พึงพอใจของแขกเป็นสำคัญ

 

5 Skill ควรมีถ้าจะฝึกงานสาย Communication Art

 

  • ทักษะความคิดสร้างสรรค์และการออกแบบ

การมีความคิดที่สร้างสรรค์ ในการออกแบบเป็นสิ่งสำคัญในสาขานิเทศศาสตร์ ซึ่งเราควรจะสามารถคิดนอกกรอบ สร้างสรรค์แนวคิดใหม่ๆ และสื่อสารข้อความด้วยภาพผ่านการออกแบบกราฟิก การเล่าเรื่องด้วยภาพ และเนื้อหามัลติมีเดีย

 

  • ทักษะการเขียนและการสื่อสารด้วยวาจาที่แข็งแกร่ง

ในสาขานิเทศศาสตร์ การสื่อสารด้วยวาจาและลายลักษณ์อักษรที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญ ควร

สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างชัดเจน รัดกุม และสร้างสรรค์ ซึ่งรวมถึงการเขียนข้อความที่น่าสนใจ

การสร้างโพสต์โซเชียลมีเดียที่น่าสนใจ และการนำเสนอที่โน้มน้าวใจ

 

  • ความเชี่ยวชาญด้านดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย

ความเชี่ยวชาญในแพลตฟอร์มดิจิทัลและโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการฝึกงานด้านนิเทศศาสตร์

เราควรคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ เข้าใจฟังก์ชันการทำงาน และสามารถใช้เครื่องมือ

ดิจิทัลสำหรับสร้างเนื้อหา ตั้งเวลา และวิเคราะห์ได้ ซึ่งรวมถึงทักษะในระบบการจัดการเนื้อหา ซอฟต์แวร์

การออกแบบกราฟิก เครื่องมือตัดต่อวิดีโอ และแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูล

 

  • ทักษะการวิจัยและการวิเคราะห์

ความสามารถในการทำการวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดเป็นสิ่งจำเป็นในสาขานิเทศศาสตร์ เราควรมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูล ระบุแนวโน้ม ตีความข้อมูล และตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลเชิงลึก ทักษะการวิจัยและการวิเคราะห์ช่วยในการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย ระบุกลยุทธ์การสื่อสาร และประเมินประสิทธิภาพของแคมเปญ

 

  • ความสามารถในการปรับตัวและการทำงานร่วมกัน

งานในสายงานนี้มักจะมีเทรนด์ใหม่ๆมาเสมอ สิ่งสำคัญคือต้องปรับตัว เปิดรับคำติชม และสามารถทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ ทักษะการทำงานร่วมกันที่แข็งแกร่ง รวมถึงการฟังอย่างกระตือรือร้น คำติชมที่สร้างสรรค์ และการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ มีความสำคัญต่อการประสบความสำเร็จในการฝึกงานในสาขานี้